เครนติดรถบรรทุกเป็นเครื่องมือที่มีความสะดวกในงานยกสิ่งของต่าง ๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะ สามารถใช้เครนช่วยยกจากที่ต่ำไปสู่ที่สูง หรือช่วยย้ายสิ่งของจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้หลายธุรกิจมีความต้องการซื้อเครนติดรถบรรทุกสักคันไว้ใช้งานในหน่วยงานของตัวเอง และสำหรับผู้ที่ไม่เคยสัมผัสแวดวงของเครนว่าเป็นอย่างไร มีเครนประเภทไหนที่เหมาะกับธุรกิจบ้าง ควรทำการศึกษาให้เข้าใจก่อนทำการตัดสินซื้อ โดยข้อมูลที่จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นมีดังต่อไปนี้
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเครนติดรถบรรทุกเพื่อใช้งานในธุรกิจ
ลักษณะของเครนติดรถบรรทุก หรือรถโมบายเครนคือ การนำเอารถบรรทุกไปติดตั้งเครื่องจักรเครนเพื่ออำนวยความสะดวกในงานยกสิ่งของ โดยรถบรรทุกที่ใช้เราจะพบเห็นกันตั้งแต่ 4 ล้อขึ้นไป และรถแต่ละขนาดก็มีข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจก่อนการตัดสินซื้อคือ รถแต่ละชนิดใช้งานอย่างไร เหมาะกับธุรกิจของเราหรือไม่ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. เครนล้อยาง
คือการติดตั้งเครนบริเวณด้านหลัง หรือด้านบนของตัวถังรถบรรทุก สามารถยกน้ำหนักได้มากถึง 25 ตันขึ้นไป และด้วยล้อที่เป็นยางทำให้รถชนิดนี้สามารถวิ่งบนท้องถนนและใช้ความเร็วได้เหมือนรถทั่วไป อีกทั้งยังเข้าโค้งหักศอกได้ดี สามารถนำไปใช้งานกับหน้างานที่มีพื้นผิวขรุขระหรือเป็นหลุมได้ แต่ไม่เหมาะกับหน้างานที่เป็นพื้นที่บุกเบิกที่มีทั้งโคลน ทราย หรือหลุมน้ำ เพราะรถจะขาดความคล่องตัว และความชื้นอาจทำให้ตัวถังเป็นสนิมได้ง่าย พื้นที่บุกเบิกจึงเหมาะรถเครนแบบตีนตะขาบมากกว่า
2. เครน 4 ล้อ
เครนติดรถบรรทุกชนิดนี้ ออกแบบมาเพื่อหน้างานที่เป็นพื้นที่บุกเบิก ที่เต็มไปด้วยพื้นผิวที่นุ่มและแข็งสลับกัน มีโคลน มีดิน และมีทราย ตัวรถจะติดตั้งเครื่องจักรสำหรับกว้านดินหรือโคลนออก เพื่อช่วยไม่ให้รถติดหล่ม ลักษณะของรถจะมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ยกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 8 ตันขึ้นไป สามารถวิ่งตามท้องถนนได้แต่ใช้ความเร็วได้ไม่มาก และไม่เหมาะกับการใช้งานวิ่งระยะไกลอย่างการวิ่งข้ามจังหวัด เพราะตัวถังของรถมีน้ำหนักเยอะ ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอีกทั้งยังมีโอกาสทำให้พื้นผิวจราจรเสียหาย
3. เครนรถบรรทุก
คือรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป นำไปติดตั้งเครนเพื่อใช้ในงานยกสิ่งของ และขนสิ่งของไปส่งยังจุดหมายปลายทาง เช่น งานขนพืชผลทางการเกษตร งานขนเครื่องจักร และงานขนถังสารเคมี เป็นต้น รถประเภทนี้จะสามารถยกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 8 ตันขึ้นไป สามารถวิ่งบนท้องถนนและเลี้ยวหักศอกตามซอยได้เหมือนรถทั่วไป ไม่เหมาะกับหน้างานที่มีพื้นผิวขรุขระ หรือพื้นที่บุกเบิก เพราะมีโอกาสรถติดหล่มสูง
4. เครนตีนตะขาบ
ถึงแม้จะไม่ใช่เครนติดรถบรรทุก แต่เวลาเคลื่อนย้ายเครนตีนตะขาบ ก็ต้องใช้รถบรรทุกในการขน เนื่องจากเครนตีนตะขาบไม่สามารถวิ่งระยะทางต่อเนื่องเกิน 100 เมตรได้ เพราะชุดตีนตะขาบจะชำรุดหรือสึกหรอเร็ว เครนตีนตะขาบเป็นเครนที่ใช้ในงานที่มีความสมบุกสมบันสูง อย่างหน้างานพื้นที่บุกเบิก หน้างานที่พื้นผิวยังไม่ผ่านการบดอัด และหน้างานที่มีหลุมมีบ่อเยอะ เครนตีนตะขาบจะสามารถรับมือได้ดี อีกทั้งยังสามารถยกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป
เมื่อคุณซื้อเครนติดรถบรรทุกมาสักคัน คุณจะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้นมาทันที ดังนั้นรถที่เลือกซื้อมาจึงควรเป็นรถที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า โดยคุณจะต้องประเมินการใช้งานในอนาคตก่อนตัดสินใจซื้อว่า ในอนาคตคุณมีโอกาสที่จะใช้เครนยกสินค้าที่มีน้ำหนักมากที่สุดเท่าไหร่ เพราะเราจะใช้น้ำหนักมากที่สุดของสินค้าเป็นเกณฑ์ในการกำหนดพิกัดน้ำหนักของเครน นอกจากนี้คุณจะต้องประเมินว่าสินค้าในอนาคตของคุณมีความเป็นไปได้ว่าจะมีขนาดความกว้าง ความยาว และความสูงอย่างไร เพราะขนาดของสินค้าในอนาคตจะใช้เป็นตัวกำหนดแขน หรือ “บูม” ของเครนได้ การคาดการณ์และประเมินธุรกิจล่วงหน้าเช่นนี้ จะช่วยให้รถเครนที่เลือกซื้อสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า